ฟีฟ่าลงดาบมิดฟิลด์ซาเกร็บ หลังตรวจพบสารกระตุ้น

เรื่องการใช้สารกระตุ้นเป็นสิ่งที่วงการกีฬาไม่ยอมรับ และแอนตี้เป็นอย่างมาก แต่แน่นอนว่าเมื่อมีกฎ ก็ย่อมที่จะมีการแหกกฏ ซึ่งในแต่ละปีเราจะพบว่ามีนักกีฬาโดนแบน เพราะตรวจพบว่ามีการใช้สารกระตุ้นอยู่ไม่น้อยทีเดียว และในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่แจ็คพอตดันมาตกที่ อาริยาน อเดมี่ กองกลางตัวเจ๋งของทีม ดินาโม ซาเกร็บ พอดิบพอดี แต่อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่เคยมีการใช่สารกระตุ้นอย่างที่กล่าวหา พร้อมกันนี้สโมสรต้นสังกัดอย่างดินาโม ซาเกร็บ ก็พยายามที่จะช่วยเหลือให้พ้นข้อกล่าวหา ซึ่งคาดว่าคงจะไม่ง่ายนัก เพราะโทษของนักกีฬาที่ใช้สารกระตุ้นนั้นค่อนข้างรุนแรงทีเดียว
โดยเรื่องราวดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ ซาเกร็บได้ไปแข่งขันเอาชนะอาร์เซน่อล ในเกมรอบแบ่งกลุ่มในศึกยุฟ่า แชมเปี้ยน ลีก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าผลของการแข่งขัน ซาเกร็บจะเป็นฝ่ายชนะไปได้ด้วยสกอร์2-1 แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะเมื่อมีการตรวจหาสารกระตุ้นในร่างกายของนักเตะ กลับพบว่า อาริยาน มีสารกระตุ้นในร่างกายมากกว่าที่กำหนด ทำให้ฟีฟ่าต้องงัดกฎเหล็กของตนออกมาใช้ด้วยการตัดสินใจให้โทษแบนแก่เขา นานถึง 4 ปีต่อจากนี้ทีเดียว
ซึ่งผลการตัดสินของทางฟีฟ่าได้สร้างความไม่พอใจให้กับทั้งตัวนักเตะ และสโมสรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสโมสรใหญ่ของโครเอเชีอย่าง ดินาโม ซาเกร็บ ที่จะต้องเสียนักเตะฝีมือดีไปถึง 4 ปีเรียกว่าหนักหนาเอาการไม่น้อย ทั้งนี้ทางสโมสรก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในชะตากรรมของนักเตะในสังกัด โดยกำลังพยายามที่จะอุทธรณ์ข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อฟีฟ่าอยู่เหมือนกัน
มาที่ในส่วนของตัวนักเตะอย่าง อาริยาน อเดมี่ นั้น เขาคิดว่านี่คือเรื่องที่ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่นัก เพราะทางฟีฟ่าก็แทบจะไม่ได้ให้โอกาสเขาในการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างไร โดยตัวเขาเองไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิดอะไร และเพราะเหตุใดจึงต้องโดนลงโทษหนักหนาขนาดนั้น
ซึ่งหากสิ่งที่อาริยานกล่าวเป็นจริงก็นับว่าน่าสงสารอยู่ไม่น้อย เพราะระยะเวลา 4 ปีสำหรับการโดนแบน อาจจะทำให้นักเตะอย่างเขาต้องแขวนสตัด ไปเลยอย่างไม่มีวันหวนกลับมาสู่วงการลูกหนังได้อีก แต่หากมองในมุมของฟีฟ่า การแบนอาริยาน อาจจะเป็นผลดีต่อนักเตะในรุ่นหลังๆให้ไม่กล้าที่จะใช้สารกระตุ้นอีก เพราะได้มีกรณีให้เห็นแล้วว่าหากตรวจพบ เท่ากับหมดอนาคตในวงการไปเลยทีเดียว